FXCM

FXCM จากการทดลองใช้เหมาะกับเทรดเดอร์ที่ชอบเทรดในปริมาณที่มาก เนื่องจากค่าคอมมิชชั่นและค่าสเปรดของโบรกเกอร์อยู่ในระดับต่ำ โดยเฉพาะบัญชี Active Trader แต่เงินฝากขั้นต่ำกำหนดไว้สูงมาก ไม่เหมาะกับมือใหม่ที่อยากเริ่มต้นเทรดครับ

1. ประวัติ FXCM

ถือเป็นหนึ่งในผู้ให้บริการผู้บุกเบิกการซื้อขายออนไลน์ การแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศหรือการซื้อขาย Forex, CFDs, หุ้น, สินค้าโภคภัณฑ์ และดัชนี โดยเริ่มเปิดดำเนินการในปี 1999 มีสำนักงานใหญ่อยู่ที่ลอนดอน และมีสาขากระจายมากมายหลายแห่งทั่วโลก ในส่วนของเว็บไซต์ของโบรกให้บริการแหล่งความรู้ที่ครบครันสำหรับเทรดเดอร์ในรูปแบบบทความ วิดีโอ และคู่มือการเทรด ซึ่งมีฝ่ายดูแลลูกค้าให้บริการ 5 วันทำการตลอด 24 ชั่วโมง

FXCM

2. ใบอนุญาต

3. ค่าสเปรด

FXCM ค่าสเปรด

สำหรับโบรกเกอร์นี้จะเป็นสเปรดแบบลอยตัว แต่ถือว่าอยู่ในระดับต่ำกว่าโบรกอื่น ๆ มาก และแต่ละประเถทบัญชีจะมีค่าสเปรดที่แตกต่างกันออกไป สำหรับการเทรด Forex ค่าสเปรดของคู่สกุลเงินหลักมีรายละเอียด ดังนี้

EUR/USD อยู่ที่ 0.2 Pips

USDJPY อยู่ที่ 0.3 Pips

GBP/USD อยู่ที่ 0.7 Pips

โดยส่วนใหญ่ทางโบรกเกอร์จะคิดค่าธรรมเนียมที่ต่ำในบัญชีประเภท Active Trader สำหรับ Leverage ทางโบรกได้ทำตามกฎที่กำหนดโดย European Securities and  Markets Authority (ESMA) มีวัตถุประสงค์ในการช่วยป้องกันบัญชีลูกหนี้ โดยการลดความเสี่ยงที่จะมีต่อตลาด

สำหรับคู่สกุลเงินหลัก เช่น  EUR/USD USD/JPY และ GBP/USD จะสามารถใช้ Leverage ได้ 1:30 และคู่เงินหลักอื่น ๆ รวมถึง CFDs ของดัชนีและทองคำสามารถใช้เลเวอเรจสูงสุดได้ 1:20 และลดลงเหลือ 1:10 ในส่วนของคริปโตฯ นั้นจะมี Leverage สูงสุเพียง 1:2 แต่สำหรับลูกค้าชาวออสเตรเลียและแอฟริกาใต้สามารถใช้ Leverage ได้สูงสุดที่ 1:400

4. ประเภทบัญชีของ FXCM

ทางโบรกเกอร์มีบัญชีให้เลือกทั้งหมด 2 ประเภทบัญชี คือ

เหมาะสำหรับเทรดเดอร์ที่เทรดในปริมาณมาก เนื่องจากมีค่าคอมมิชชั่นอยู่ที่ $25 สำหรับการเทรด $1,000,000 โดยจะมีค่าสเปรดประมาณ 0.5 Pips แต่มีเงินฝากขั้นต่ำค่อนข้างสูงประมาณ $25,000 ตัวอย่างคู่สกุลเงินหลัก EUR/USD ในบัญชีประเภทนี้จะอยู่ที่ประมาณ 0.2 Pips โดยเฉลี่ย ซึ่งมีโบรกเกอร์เพียงไม่กี่รายเท่านั้นที่เสนอค่าสเปรดที่ต่ำเช่นนี้ได้

เป็นบัญชียอดนิยมสำหรับเทรดเดอร์มือใหม่ เนื่องจากไม่มีการเรียกเก็บค่าคอมมิชชั่น แต่ค่าสเปรดของคู่สกุลเงินจะค่อนข้างกว้าง เช่น EUR/USD และ USD/JPY ค่าสเปรดจะอยู่ที่ประมาณ 1.3 pip และค่าใช้จ่ายในการดำเนินธุรกรรมก็จะแพงกว่าของบัญชี Active Trader เกือบสองเท่า

5. ช่องทางการฝาก-ถอน

การฝาก

คุณสามารถเลือกฝากเงินได้ในหลายช่องทางแบบไม่มีค่าธรรมเนียม ได้แก่ การโอนผ่านธนาคาร บัตรเครดิต รวมถึง Skrill, Neteller, Union Pay และอิเล็กทรอนิกส์วอลเล็ท การใช้ช่องทางผ่านการโอนเงินจากธนาคารนั้นจะใช้เวลานานมากถึง 4 วันทำการ ในขณะที่การใช้ช่องทางอื่นนั้นการทำธุรกรรมการโอนเงินจะเกิดขึ้นในทันที

ช่องทางฝากเงิน

การถอน

สำหรับการถอนเงินเข้าบัตรนั้นจะไม่มีค่าธรรมเนียม แต่การถอนโดยใช้การโอนจะมีค่าธรรมเนียม ที่สำคัญทางโบรกยังไม่มีช่องทางการถอนเงินผ่าน E-wallet ดังนั้นแนะนำให้ฝากเงินโดยใช้การโอนหรือบัตร ซึ่งการถอนเงินผ่านธนาคารจะใช้เวลาประมาณ 4 วัน ส่วนการถอนผ่านบัตรจะใช้เวลาน้อยกว่า 3 วัน

6. เครื่องมือการซื้อขาย

ในตอนแรกทางโบรกเป็นโบรกเกอร์สำหรับการเทรด Forex ที่มี CFD สำหรับตราสารทุน แต่ว่าในปี 2018 CFD ของทางโบรกเกอร์นี้ถูกลดจำนวนลงอย่างรวดเร็ว และเหลือเพียงไม่กี่ตัวเท่านั้น เช่น CFD ของดัชนี, CFD ของสินค้าโภคภัณฑ์และ CFD ของสกุลเงินคริปโต นอกจากนี้ยังมีคู่สกุลเงินที่เพิ่งจะเข้ามาอยู่ในลิสท์ของทางโบรกเกอร์ในปี 2018 ซึ่งได้แก่ BTC/USD, ETH/USD, LTC/USD, BCH/USD และ XRP/USD

ณ ปัจจุบันทางโบรกสามารถเทรดได้ทั้ง Forex, ดัชนี, สินค้าโภคภัณฑ์ และคริปโตฯ ซึ่งสามารถเทรดในรูปแบบ CFD ได้ โดยมีจำนวนสินทรัพย์ที่มีอยู่ในแต่ละตลาด ดังนี้

7. แพลตฟอร์มการซื้อขาย

ทางโบรกมีแพลตฟอร์มให้เลือกเทรด ได้แก่ MT4, ZuluTrade, Ninja Trader และ Trading Station

แพลตฟอร์มการซื้อขาย

8. จุดแข็ง-จุดอ่อนของ FXCM

จุดแข็ง FXCM

จุดอ่อน FXCM

โบรกเกอร์เด่นในเรื่องความน่าเชื่อถือครับ แต่พี่โบ้มองว่ายังไม่น่าสนใจ และไม่เอื้ออำนวยต่อคนไทยมากเท่าที่ควร อีกทั้งบัญชีที่มีสเปรดต่ำยังต้องใช้เงินลงทุนที่มาก คงไม่เหมาะกับมือใหม่ นอกจากนี้ยังไม่รองรับการฝาก-ถอนผ่านธนาารไทยอีกด้วย แต่หากใครเป็นเทรดเดอร์สายลงทุนหนัก ๆ พี่โบ้ว่าคุ้มนะครับ เปิดบัญชี Active Trader ไปเลย สเปรดค่อนข้างต่ำกว่าโบรกอื่นเลยทีเดียว สำหรับใครที่สนใจสามารถเข้าไปเปิดบัญชีได้ที่นี่เลยครับ

อ่านรีวิวโบรกเกอร์เพิ่มเติมได้ที่: Review Broker

อ่านบทความเพิ่มเติมได้ที่: สาระน่ารู้