กลยุทธ์ Carry Trade

สำหรับการเทรด Forex หรือแม้แต่สินทรัพย์อื่น ๆ ต้องยอมรับกันก่อนว่า นักเทรดเนี่ย กว่าจะหากลยุทธ์ที่เหมาะสมกับตัวเองนั้น ถือเป็นเรื่องยากพอสมควรเลย เนื่องจากการเทรดสินทรัพย์แต่ละประเภทต่างก็มีข้อจำกัดที่แตกต่างกันออกไป ประกอบกับลักษณะนิสัยการเทรดของแต่ละคนด้วยแล้ว การหากลยุทธ์จึงเป็นเรื่องยากครับ แต่วันนี้ พี่โบ้จะมาแนะนำกลยุทธ์การเทรด Forex อีกแบบ เผื่อว่ามันจะเหมาะสม หรือเป็นที่ถูกใจของเพื่อน ๆ ครับ นั่นก็คือ กลยุทธ์แบบ Carry Trade มันคืออะไร? ดีกว่ากลยุทธ์อื่น ๆ ตรงไหน? ไปดูกันเลยครับ!


Carry Trade คืออะไร?

อันดับแรก ต้องอธิบายหลักการทำงานของกลยุทธ์นี้ก่อนว่า มันคือการที่เทรดเดอร์กู้ยืมเงินใน “อัตราดอกเบี้ยที่ต่ำ” และนำไปลงทุนในสินทรัพย์ที่ให้ “อัตราผลตอบแทนที่สูงขึ้น” เราเรียกการทำงานแบบนี้ว่า “การทำกำไรจากส่วนต่างของดอกเบี้ย

ยกตัวอย่างเช่น พี่โบ้กู้ยืมเงิน 10,000 บาท โดยมีอัตราดอกเบี้ยอยู่ที่ 1% จากนั้น พี่โบ้ก็นำเงินไปลงทุนในสินทรัพย์อื่นที่ให้ผลตอบแทน 5% นั่นหมายความว่า พี่โบ้จะได้กำไรจากส่วนต่างของดอกเบี้ย 4% นั่นเองครับ

กลยุทธ์ดังกล่าว ส่วนมากจะขึ้นอยู่กับการกู้ยืมในสกุลเงินที่มีอัตราดอกเบี้ยต่ำ จากนั้น แปลงจำนวนเงินที่ยืมไปเป็นสกุลเงินอื่น ซึ่งเงินที่ได้จะถูกฝากในสกุลเงินที่ 2 ในอัตราดอกเบี้ยที่สูงกว่า โดยเงินที่ได้รับยังสามารถนำไปใช้ลงทุนในสินทรัพย์ต่าง ๆ เช่น หุ้น สินค้าโภคภัณฑ์ พันธบัตร หรืออสังหาริมทรัพย์ที่อยู่ในสกุลเงินที่ 2 ได้ครับ

อย่างไรก็ตาม กลยุทธ์นี้หากใช้ในการซื้อขายสัญญาทางการเงิน หรือเพื่อกิจกรรมอื่น ๆ อาจเผชิญกับความเสี่ยงในการกำหนดสัญญาที่ไม่อาจเปลี่ยนแปลงได้ ทำให้มีการล็อคอัตราแลกเปลี่ยนในอนาคตไว้ ดังนั้น ผู้ใช้ก็อาจจะขาดทุนมากกว่าได้กำไรครับ


Carry Trade ในวงการ Forex

จากหลักการทำงานข้างต้น จะเห็นได้ว่า กลยุทธ์นี้มีใจความสำคัญอยู่ที่ การทำกำไรจากส่วนต่างของดอกเบี้ย ดังนั้น เทรดเดอร์จึงใช้มันในการซื้อขายสกุลเงินเพื่อทำการเก็งกำไร เนื่องจากเราสามารถซื้อขายสกุลเงินต่าง ๆ ได้โดยไม่ต้องเดินทางไป หรือทำเรื่องที่ประเทศนั้นจริง ๆ อีกทั้ง การซื้อขายผ่านโบรกเกอร์ก็มักจะมีสิ่งที่เรียกว่า Swap หรือก็คือค่าธรรมเนียมในการถือข้ามคืน ดังนั้น กลยุทธ์นี้จึงถูกใช้ในการเทรด Forex อย่างแพร่หลายนั่นเองครับ

โดยการใช้กลยุทธ์ดังกล่าวในการเทรดจะต้องเน้นคู่เงินที่มีค่า Swap เป็นบวก หรืออาจกล่าวง่าย ๆ ได้ว่า ซื้อสกุลเงินที่มีอัตราดอกเบี้ยสูง และขายสกุลเงินที่มีอัตราดอกเบี้ยต่ำ เดี๋ยวพี่โบ้จะยกตัวอย่างง่าย ๆ ให้ดูครับ

ตัวอย่างเช่น พี่โบ้กู้ยืม หรือออกคำสั่ง Sell สกุลเงิน JPY (ดอกเบี้ยต่ำ) จากนั้นก็นำไปลงทุน หรือออกคำสั่ง Buy ในสกุลเงินที่ทำกำไรได้ (ดอกเบี้ยสูง) เช่น AUD ทำให้พี่โบ้จะได้กำไรจากค่า Swap ที่เป็นบวก หลังจากการถือข้ามคืนครับ หรืออาจกล่าวได้ว่า การที่พี่โบ้กู้ยืมเงิน JPY ไปลงทุนใน AUD จะส่งผลให้เงินทุนไหลจากญี่ปุ่นเข้าไปที่ออสเตรเลียเพิ่มขึ้น และความต้องการเงินดอลลาร์ออสเตรเลียก็จะเพิ่มสูงขึ้น นั่นคือ AUD/JPY จะพุ่งขึ้นนั่นเอง 

อย่างไรก็ดี การไหลของเงินทุนที่เพิ่มขึ้นก็มีความเสี่ยงเช่นกันนะครับ ห้ามลืมเด็ดขาด พี่โบ้ขอเตือน!



การใช้กลยุทธ์ในการเทรด

ในการเทรด Forex เราสามารถประยุกต์ใช้กลยุทธ์ดังกล่าวในการเทรดได้ 2 แบบ ดังนี้ครับ

1. เทรดในโบรกเกอร์เดียวกัน

ข้อดี​ – สามารถโอนเงินจากบัญชีที่บวกมาบัญชีที่ลบได้สะดวก

ข้อเสีย​ – ถ้านโยบายของโบรกเกอร์เปลี่ยนไป อาจจะไม่ได้รับการอนุมัติถอนเงิน

2. เทรดข้ามโบรกเกอร์

ข้อดี​ – หมดปัญหาเรื่องข้ออ้างของโบรกเกอร์ในการถอนเงิน

ข้อเสีย​ – เกิดความยุ่งยากในการถอนจากบัญชีโบรกเกอร์ที่บวกมาใส่บัญชีโบรกเกอร์ที่ลบ


โดยสรุปแล้ว กลยุทธ์นี้จะมีความคล้ายคลึงกับการ Arbitrage ที่จำเป็นต้องใช้เงินในการสร้างกำไรครับ สามารถทำได้ง่าย และไม่ต้องใช้ความรู้มากนัก เพียงเพื่อน ๆ ต้องทำความเข้าใจเกี่ยวกับความแตกต่างของอัตราดอกเบี้ยของสกุลเงินที่ต้องการลงทุนเท่านั้น อย่างไรก็ตาม การเทรดลักษณะนี้จะต้องใช้เวลา เนื่องจากเป็นการเทรดระยะยาว ดังนั้น หากคิดจะใช้กลยุทธ์นี้ อาจต้องรอเป็นเดือน หรือเป็นปี เพื่อน ๆ จึงต้องมีความอดทน อีกทั้ง เงินทุนที่ใช้จะต้องถูกแบ่งส่วนมาเพื่องานนี้โดยเฉพาะ แต่หากเพื่อน ๆ รอได้ ก็คุ้มค่าครับ!


Source: Investopedia

อ่านบทความเพิ่มเติมได้ที่: สาระน่ารู้

อ่านรีวิวโบรกเกอร์เพิ่มเติมได้ที่: Review Broker