
หากพูดถึงโบรกเกอร์ขนาดใหญ่ เพื่อน ๆ จะคิดถึงโบรกไหนกันครับ? แล้วเหตุผลที่เพื่อน ๆ เลือกใช้โบรกนั้นคืออะไร? มาลองดูโบรกเกอร์รายใหญ่ที่ให้บริการทั่วโลกที่พี่โบ้กำลังจะพูดถึงกันครับ เผื่อจะเป็นตัวเลือกให้เพื่อน ๆ ได้ หรืออย่างน้อยก็อาจเป็นแหล่งความรู้เสริมได้ครับ นั่นคือ Admiral Markets ไปรู้จักกันเลยครับ!

1. ประวัติ
Admiral Markets เป็นแบรนด์ที่อยู่ภายใต้การจัดการของบริษัท Aglobe Investments Ltd มีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ที่ประเทศ Seychelles และให้บริการประเทศต่าง ๆ ทั่วโลก รวมถึงประเทศไทยด้วยเช่นกัน ทำให้มีบทความ ข่าวสาร รวมถึงบทวิเคราะห์ภาษาไทยมากมาย อีกทั้ง ยังรองรับหลากหลายสกุลเงิน และหลายผลิตภัณฑ์ นับว่าเป็นโบรกเกอร์รายใหญ่รายหนึ่งเลยครับ
2. ใบอนุญาต
- Financial Services Authority of Seychelles (FSA), หมายเลขใบอนุญาต SD073
- Australian Securities & Investments Commission (ASIC), หมายเลขใบอนุญาต 410681
- Financial Conduct Authority (FCA), หมายเลขใบอนุญาต 595450
- Cyprus Securities and Exchange Commission (CySEC), หมายเลขใบอนุญาต 201/13
3. Spread
สำหรับค่า Spread ของโบรกเกอร์นี้ เริ่มต้นที่ 0.0 Pips (สำหรับประเภทบัญชี Zero.MT4, Invest.MT5 และ Zero.MT5 ครับ)
4. ประเภทบัญชี
โบรกเกอร์นี้มีประเภทบัญชีให้เพื่อน ๆ เลือกใช้ตามแพลตฟอร์มที่ใช้ ดังนี้
1) แพลตฟอร์ม MT4
- บัญชีประเภท Trade.MT4
- บัญชีประเภท Zero.MT4




2) แพลตฟอร์ม MT5
- บัญชีประเภท Trade.MT5
- บัญชีประเภท Invest.MT5
- บัญชีประเภท Zero.MT5




5. ช่องทางการฝาก – ถอน
ลูกค้าทั่วโลกสามารถฝาก และถอนเงินโดยใช้สกุลเงินหลัก คือ USD และ EUR ซึ่งมีช่องทางรองรับ ดังนี้

- POLi Payment
- Bank Wire
- Skrill
- Neteller
- บัตรเครดิต / เดบิต Visa หรือ Mastercard
- Crypto Wallet
- Perfect Money
ส่วนการฝาก และถอนเงิน สำหรับลูกค้าชาวไทย สกุลเงินที่ใช้ได้ คือ CNY, MYR, THB, VND และ IDR ซึ่งมี 2 ช่องทางในการให้บริการ คือ Bank Wire และ Promptpay โดยธนาคารไทยที่รองรับมีดังนี้

- ธนาคารกรุงเทพ
- ธนาคารกรุงศรีอยุธยา
- ธนาคารซีไอเอ็มบีไทย
- ธนาคารออมสิน
- ธนาคารกสิกร
- ธนาคารเกียรตินาคินภัทร
- ธนาคารกรุงไทย
- ธนาคารไทยพาณิชย์
- ธนาคารทหารไทยธนชาต

ในการฝากเงิน มีขั้นต่ำอยู่ที่ 950 บาท ไม่มีค่าธรรมเนียม ส่วนการถอนเงิน จะมีขั้นต่ำอยู่ที่ 500 บาท มีค่าธรรมเนียม 3% ระยะเวลาการดำเนินการจะขึ้นอยู่กับช่องทางที่ฝาก – ถอน ซึ่งส่วนมากจะเข้าทันที หรือรอไม่เกิน 24 ชม. ครับ แต่อย่างไรก็ดี โบรกเกอร์นี้ยังมีค่าธรรมเนียมอื่น ๆ และค่าคอมมิชชั่นที่ค่อนข้างสูงครับ

6. ผลิตภัณฑ์ที่สามารถเทรดได้
- Forex
- สินค้าโภคภัณฑ์
- ดัชนี
- หุ้น
- ETF
- Cryptocurrency
7. Platform ที่ใช้เทรด
เพื่อน ๆ สามารถเทรดได้ผ่าน MT4 และ MT5 เลยครับ
8. จุดแข็ง – จุดอ่อน
จุดแข็ง
- มีใบอนุญาต
- หน้าเว็บรองรับภาษาไทย
- มีบทความ ข่าวสาร บทวิเคราะห์ภาษาไทยเยอะ
- เครื่องมือช่วยตัดสินใจเยอะ
- มีหลายบัญชีให้เลือก
- Spread ต่ำ
- มีโบนัสในการเปิดบัญชี
- มีธนาคารไทยรองรับ
- มีผลิตภัณฑ์ให้เลือกเทรดหลากหลาย
จุดอ่อน
- ค่าธรรมเนียมอื่น ๆ
- ค่า Commission
โดยสรุปแล้ว โบรกเกอร์นี้ก็เป็นโบรกเกอร์ใหญ่ที่มีจุดเด่นเป็นของตัวเอง แต่อย่างไรก็ดี เมื่อมีข้อดีก็ต้องมีข้อด้อย นั่นคือ ค่าธรรมเนียมอื่น ๆ และค่าคอมมิชชั่นค่อนข้างสูง ดังนั้น หากเพื่อน ๆ ต้องการเข้าไปดู หรือศึกษาข้อมูลอื่น ๆ เพิ่มเติม สามารถดูได้ที่ เว็บไซต์ เลยครับ
อ่านรีวิวโบรกเกอร์เพิ่มเติมได้ที่: Review Broker
อ่านบทความเพิ่มเติมได้ที่: สาระน่ารู้