สวัสดีครับเพื่อน ๆ วันนี้พี่โบ้จะพาเพื่อน ๆ มาเรียนรู้วิธีการเอาตัวรอดในสนามการลงทุน หรือ”หุ้น”นั่นเองครับ แต่ก่อนที่จะไปเรียนรู้วิธีการเอาตัวรอด พี่โบ้ว่า เราไปดูกันก่อนดีกว่าว่า ความหมายของหุ้น จริง ๆ แล้วคืออะไร?
ความหมายของ “หุ้น”
หุ้น (stock) คือสินทรัพย์ที่กิจการหนึ่ง ๆ ออกให้แก่หุ้นส่วนเพื่อเป็นเครื่องหมายว่า คน ๆ นั้น เป็นหุ้นส่วนที่ร่วมลงทุนกับกิจการ และจะทำการเปลี่ยนมือก็ต่อเมื่อเจ้าของเดิมได้ทำการขายสิทธิ์ในการแสดงความเป็นเจ้าของหรือยกสิทธิ์ของตนไปสู่มือของผู้อื่นนั่นเองครับ ซึ่งในส่วนของการซื้อขายเปลี่ยนมือนั้น ปัจจุบันมีตลาดกลางที่ทำหน้าที่ในการเป็นตัวกลางในการซื้อขายที่เรียกว่า “ตลาดหลักทรัพย์” โดยจะทำการรวบรวมทั้งหุ้น ผู้ซื้อ เเละผู้ขายให้ได้มาเจอกัน การลงทุนในหุ้นจึงได้รับความนิยมเป็นอันดับต้น ๆ ของนักลงทุน เเต่ใช่ว่า หุ้นจะมีความเสี่ยงน้อยไปกว่าการลงทุนรูปแบบอื่นนะครับ เพราะทุกการลงทุนย่อมมาพร้อมกับความเสี่ยง วันนี้พี่โบ้เลยมีแนวคิดดี ๆ ที่จะทำให้เพื่อน ๆ ไม่ล้มเหลวในการลงทุนในหุ้นอย่างแน่นอน
9 เทคนิคการลงทุนใน “หุ้น”
1. ก่อนจะลงทุนต้องศึกษาตลาดหุ้นให้เข้าใจ
การลงทุนในตลาดหุ้นไม่ใช่การเสี่ยงโชค ผู้ที่เข้ามาในตลาดด้วยแนวคิดแบบนี้ ล้วนแล้วแต่ต้องขาดทุนไปนับไม่ถ้วนครับ เพราะหุ้นเป็นสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงไม่น้อย ดังนั้น ก่อนจะตัดสินใจเข้ามาลงทุน เพื่อน ๆ จำเป็นต้องทำการศึกษาให้เข้าใจถึงกลไกต่าง ๆของตลาดอย่างดีเสียก่อน รวมถึงวิธีการซื้อขาย จังหวะเวลาที่เหมาะสมที่จะทำการซื้อขาย ยิ่งรู้มากเพียงใด เพื่อน ๆ ก็จะปิดโอกาสขาดทุนมากขึ้นตามไปด้วยนั่นเองครับ
2. ต้องเข้าใจว่า หุ้นนั้น ๆ ทำธุรกิจอะไร
เหตุผบที่เพื่อน ๆ ต้องเข้าใจว่าหุ้นทำธุรกิจอะไร ก็เพราะหุ้นคือ สิทธิ์ในการแสดงความเป็นเจ้าของร่วมของธุรกิจ ดังนั้นก่อนที่เพื่อน ๆ จะทำการตัดสินใจเลือกว่าจะซื้อหุ้นตัวใด เพื่อน ๆ จำเป็นต้องรู้ให้แน่ชัดว่า หุ้นตัวที่เพื่อน ๆ กำลังจะซื้อนั้น ประกอบธุรกิจอะไรอยู่ และธุรกิจนั้นมีสภาพคล่องหรือสุขภาพทางการเงินที่ดีมากน้อยเพียงใด รวมถึงมีข้อมูลข่าวสารความน่าเชื่อถืออย่างไร เพื่อน ๆ ต้องทราบรายละเอียดเหล่านี้ก่อนเพื่อประเมินความเสี่ยงในเบื้องต้นให้แก่ตัวเองครับ
3. รู้ว่า ตัวเองถนัดในการลงทุนในรูปแบบใด
การลงทุนในหุ้น เราสามารถแบ่งสายการลงทุนได้เป็น 2 สายก็คือในแนว Trader และในแนว Value ซึ่งแนวทางทั้งสองนั้น มีแนวคิดในการลงทุนที่แตกต่างกันแทบจะสิ้นเชิงเลยครับ เพื่อน ๆ ต้องสำรวจดูให้รู้ตัวเองก่อนว่า เพื่อน ๆ ถนัดการลงทุนในแนวไหน แล้ววางกลยุทธ์ในการลงทุนให้เป็นไปตามความถนัดของเพื่อน ๆ ครับ แต่อย่าได้กลับตัวไปมาระหว่าง 2 แนวทางนี้โดยเด็ดขาด เพราะมันมีโอกาสที่จะทำให้เพื่อน ๆ ตัดสินใจผิดพลาดจนนำไปสู่การขาดทุนได้นั่นเอง
4. รู้วัตถุประสงค์ในการลงทุน
ไม่ว่าจะเป็นการลงทุนในแนวทางของ Trader หรือ Value ก็ล้วนแล้วแต่ต้องอาศัยเวลา ความอดทนและความใส่ใจอยู่มากครับ หากเพื่อน ๆ คิดว่าเพื่อน ๆ จะเข้ามาเพื่อหวังความฉาบฉวย ความคิดเช่นนี้ก็อาจทำให้เพื่อน ๆ ต้องขาดทุนอย่างหนักก็เป็นได้ ดังนั้น ก่อนจะตัดสินใจเข้ามาลงทุน เพื่อน ๆ ต้องถามตัวเองให้ชัดเจนก่อนว่า มีวัตถุประสงค์อะไรในการลงทุนในหุ้น” รวมถึง ความสามารถในการทนรับการขาดทุนว่า มีมากน้อยเพียงใด หากเพื่อน ๆ เข้าใจวัตถุประสงค์ของตัวเองอย่างดีแล้ว พี่โบ้ขอบอกว่า เพิ่อน ๆ จะไม่ล้มเหลวในการลงทุนหุ้นครับ
5. เงินที่นำมาใช้ลงทุนควรจะต้องเป็นเงินเย็น
ข้อควรคำนึงที่สำคัญอีกข้อหนึ่งของการลงทุนในหุ้นก็คือ เงินลงทุนที่เพื่อน ๆ นำมาใช้ต้องเป็นเงินเย็น ซึ่งก็คือ เงินที่เพื่อน ๆ ไม่ได้วางแผนเอาไปใช้ประโยชน์ในระยะเวลาอันใกล้ เพราะการลงทุนในหุ้นให้ประสบความสำเร็จ ระยะเวลา เป็นสิ่งสำคัญมาก และเป็นปัจจัยที่จะบอกถึงความสำเร็จได้เลย ดังนั้น การนำเงินที่ไม่ใช่เงินเย็นมาลงทุน จะเพิ่มความเครียดและความวิตกกังวลว่า จะเสียเงินก้อนนี้ให้เพื่อน ๆ ขาดทุนมากกว่าเดิม และมีโอกาสที่จะทำให้เพื่อน ๆ วางกลยุทธ์ในการลงทุนผิดพลาดจนนำไปสู่การสูญเสียเงินจริง ๆ
6. วางกลยุทธ์ในการลงทุนให้ดีและเหมาะสมกับตนเองให้มากที่สุด
การลงทุนจะลงทุนให้ประสบความสำเร็จนั้น การวางกลยุทธ์เป็นสิ่งสำคัญครับ หากเพื่อน ๆ สามารถวางกลยุทธ์ในการลงทุนให้เหมาะสมกับตนเองได้มากที่สุด การลงทุนนั้น ก็มีความเสี่ยงที่จะล้มเหลวน้อยมากครับ ดังนั้น ก่อนการลงทุนทุกครั้งเพื่อน ๆ ควรกำหนดกลยุทธ์ในการลงทุนแต่ละครั้งให้ดีเสียก่อน
7. เรียนรู้กราฟเทคนิคและ Indicator ต่าง ๆ
การใช้กราฟเทคนิครวมถึง Indicator ต่าง ๆ ไม่ใช่สิ่งที่นักลงทุนในสาย Trader เท่านั้นที่ต้องเรียนรู้ นักลงทุนในแนว Value ก็มีความจำเป็นต้องเรียนรู้เช่นกันครับ เพราะกราฟเทคนิคและ indicator ต่าง ๆ จะช่วยให้เพื่อน ๆ สามารถกำหนดช่วงราคาที่เหมาะสมในการทำการซื้อขายและจังหวะที่น่าสนใจในการซื้อขายได้ หากเพื่อน ๆ ต้องการจะประสบความสำเร็จในการลงทุนในหุ้น ก็อย่าลืมที่จะเรียนรู้เรื่องเหล่านี้เอาไว้ด้วยครับ
8. ตั้งสติในการลงทุนทุกครั้ง
การลงทุนในสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงสูงเช่น หุ้น เรื่องของอารมณ์สามารถทำให้เพื่อน ๆตกที่นั่งลำบากและขาดทุนได้ครับ ทุกครั้งที่ได้กำไรหรือขาดทุน อย่าให้อารมณ์ความโลภและความตื่นตระหนกมามีอิทธิพลเหนือการตัดสินใจใด ๆของเพื่อน ๆ เด็ดขาด ไม่ว่าจะอยู่ในสถานการณ์ใด สติและวินัยในการลงทุน จะช่วยทำให้การลงทุนของเพื่อน ๆ ผ่านพ้นไปได้ในทุก ๆ สภาวะของตลาด
9. ไม่ควรซื้อหรือครอบครองหุ้นหลายตัว
ท้ายที่สุดวินัยในการลงทุนคือ สิ่งที่จะช่วยให้เพื่อน ๆ อยู่รอดในการลงทุนหุ้นอย่างแท้จริง เพราะแม้ว่าเพื่อน ๆ จะเรียนรู้มากเพียงใด แต่หากไร้ซึ่งวินัยและการทำตามวินัยอย่างเคร่งครัด ก็แทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่เพื่อน ๆ จะประสบความสำเร็จในการลงทุนหุ้นครับ อีกสิ่งสำคัญก็คือ อย่าซื้อหุ้นเก็บไว้ในพอร์ตครั้งละหลาย ๆ ตัว แต่ควรที่จะเลือกซื้อในหุ้นตัวที่เพื่อน ๆ รู้จักและเข้าใจพื้นฐานของมันเป็นอย่างดีครับ เพราะการที่เพื่อน ๆ มีหุ้นอยู่ในพอร์ตมากเกินไป เพื่อน ๆ จะไม่สามารถเฝ้าดูจังหวะและสัญญาณในการซื้อขายได้ทั้งหมด และมีโอกาสทำให้เพื่อน ๆ ขาดทุนจากการลงทุนได้สูงครับ
ทั้งหมดนี้ก็คือ 9 เทคนิคการลงทุนในหุ้นให้ได้กำไร และลดความเสี่ยงของการขาดทุน การลงทุนในหุ้น แม้ว่าจะสร้างผลกำไรให้แก่นักลงทุนอย่างงดงาม แต่การลงทุนนี้ ก็สามารถที่จะทำให้นักลงทุนผู้ไม่มีประสบการณ์ขาดทุนจากการลงทุนมาแล้วนับไม่ถ้วนครับ หากเพื่อน ๆ เป็นคนหนึ่งที่สนใจในการลงทุนในตลาดหุ้น ลองสนใจศึกษาตามแนวทางข้างต้น เพื่อให้เพื่อน ๆ สามารถสร้างผลกำไร และลดความเสี่ยงในการขาดทุนลงให้ได้มากที่สุดครับ
Source: Krungsri
อ่านบทความเพิ่มเติมได้ที่: สาระน่ารู้
อ่านรีวิวโบรกเกอร์เพิ่มเติมได้ที่: Review Broker